ปลูกผมผู้ชาย เลือกเทคนิคไหนดี?
FUE vs. FUT เปรียบเทียบแบบชัดเจน
ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เป็นปัญหาหนักใจของผู้ชายหลายคน ทำให้เสียความมั่นใจ แต่ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป! เพราะปัจจุบันมี เทคนิคการปลูกผม ที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด คืนความมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพ
ปลูกผมผู้ชาย เลือกเทคนิคไหนดี? วันนี้คุณหมอหมิง จะพาคุณไปเปรียบเทียบเทคนิค FUE หรือ FUT แบบชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
การปลูกผมจะเป็นการนำกราฟผมจากหนังศีรษะด้านหลังที่หนาแน่นมาปลูกลงยังบริเวณที่ต้องการ
การนำกราฟผมออกมาจะมีเพียง 2 เทคนิคเท่านั้น คือ
1. FUT (Follicular Unit Transplantation)
- แพทย์จะนำหนังศีรษะบางๆจากบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นแถบ
- นำมาแยกเป็นแต่ละกราฟผ่านกล้องจุลทรรศน์
- ก่อนนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ
- เหมาะกับผู้ต้องการปลูกผมจำนวนกราฟน้อยและมาก
- ได้กราฟผมที่สมบูรณ์ อัตราขึ้นดี
ข้อดี:
- สามารถปลูกผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงหรือศีรษะล้านในบริเวณกว้าง
- คุณภาพของกราฟผมดีกว่า อัตราขึ้นดีกว่า
- ความหนาแน่นของผมด้านหลังยังพอๆเดิม
ข้อเสีย:
- มีแผลเป็นบริเวณท้ายทอย
- อาจไม่เหมาะในคนที่ต้องการไว้ผมด้านหลังสั้นมาก เช่น ทรง skinhead
2. FUE (Follicular Unit Excision)
- แพทย์จะใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะกราฟผมออกมาจากท้ายทอย
- นำกราฟผมไปเตรียมความพร้อม แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ
- มีรอยแผลด้านหลังเป็นจุดเล็กๆ
- เหมาะกับผู้ต้องการปลูกผมจำนวนน้อยถึงปานกลาง
ข้อดี:
- มีรอยแผลด้านหลังเป็นจุดเล็กๆ
- เหมาะกับผู้ต้องการปลูกผมจำนวนน้อยถึงปานกลาง
ข้อเสีย:
- ความหนาแน่นของผมด้านหลังลดลงตามจำนวนกราฟผมที่นำออกมา
- อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว เนื่องจากจะทำให้ผมด้านหลังบางเกินไป
- ความสมบูรณ์ของกราฟผมน้อยกว่า FUT เนื่องจากอาจกระทบกระเทือนรากผมขณะเจาะนำกราฟผมออกมาได้
เลือกเทคนิคการปลูกผมอย่างไรให้เหมาะสม?
การเลือกเทคนิคในการปลูกผมผู้ชาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
- ความกว้างของพื้นที่: ผมบางกว้างแนะนำเทคนิค FUT จะเหมาะมากกว่าเนื่องจากต้องใช้กราฟผมจำนวนมาก หากพื้นที่ไม่กว้างนัก สามารถเลือกได้ทั้ง 2 เทคนิค
- เคยปลูกผมมาก่อน: หากเคยปลูกผมด้วยเทคนิค FUE มาก่อน แล้วใช้จำนวนกราฟผมเยอะ จะไม่แนะนำให้ทำ FUE ซ้ำ เนื่องจากผมด้านหลังจะบางมากเกินไป
- ความชอบ: หากไม่ต้องการแผลเป็นแบบเป็นแนว การปลูกผม FUE จะตอบโจทย์กว่า
- เน้นผลลัพธ์: ปลูกผมเทคนิค FUT จะได้กราฟผมที่สมบูรณ์กว่า อัตราขึ้นดีกว่า
- มีผมบางกลางศีรษะ: การนำกราฟผมออกมาโดยเทคนิค FUE อาจมีความเสี่ยงที่กราฟผมที่นำออกมาจะอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะกราฟผมที่นำมาจากตำแหน่งบนๆที่ใกล้ตำแหน่งผมบาง จะมีโอกาสได้รับผลได้ในอนาคต ต่างจากเทคนิค FUT ซึ่งจะสามารถนำกราฟผมทั้งหมดออกมาจาก safe zone ที่ไม่ได้รับผลจากผมบางทางกรรมพันธุ์
FUT: อัตราขึ้นสูง สามารถปลูกในพื้นที่กว้างได้ แต่มีแผลเป็นเป็นแนว
FUE: แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ โดยเฉพาะแพทย์และคลินิกที่สามารถทำได้ทั้ง FUE และ FUE เพื่อประเมินสภาพปัญหาและความต้องการของคุณ และเลือกเทคนิคการปลูกผมที่เหมาะสมสำหรับคุณ
สรุป
ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคการปลูกผมที่หลากหลาย การเลือกเทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
สนใจปรึกษากับคุณหมอหมิง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
- Line: @ultima
- Facebook: Ultima Hair Center ปลูกผมโดยแพทย์อเมริกันบอร์ด
- โทร: 064-426-4555
- Website: https://ultimahaircenter.com
Ultima Hair Center
-
นายแพทย์ปภณ อัศววรฤทธิ์ (คุณหมอหมิง)
Dr.Paphon Asawaworarit
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายรากผมโดยตรง
รับรองโดย (ABHRS )
เกี่ยวกับการปลูกถ่ายรากผม และ ยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมเทคนิค FUT และ FUE
ปรึกษาปลูกผม แอดไลน์คุณหมอ:@ultima
บทความก่อนหน้านี้
นายแพทย์ปภณ อัศววรฤทธิ์ (คุณหมอหมิง)
Dr.Paphon Asawaworarit
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายรากผมโดยตรง
รับรองโดย (ABHRS )
เกี่ยวกับการปลูกถ่ายรากผม และ ยังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมเทคนิค FUT และ FUE
ปรึกษาปลูกผม แอดไลน์คุณหมอ:@ultima